Gartner ออกมาเปิดเผย 10 เทรนด์เทคโนโลยีที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจในปี 2024 ในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทอย่างมาก โดยเชื่อว่าเทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์เหล่านี้ จะมีผลต่อการตัดสินใจทางธุรกิจและเทคโนโลยีมากมายในอีก 3 ปีข้างหน้า
โดย Gartnerได้แบ่งแยกหมวดหมู่ของเทคโนโลยีไว้ทั้งหมด 3 รูปแบบ ให้ทุกธุรกิจได้พิจารณากลยุทธ์ทางเทคโนโลยีเหล่านี้ แล้วนำไปประกอบกับแผนและจุดประสงค์ขององค์กร เพื่อสร้างธุรกิจของคุณจะเติบโตไปได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย
10 เทรนด์เทคโนโลยีสำคัญปี 2024 ที่ธุรกิจต้องรู้ !
AI TRiSM จะเป็นมาตรฐานและกฎเกณฑ์ในการใช้เทคโนโลยี AI ที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในทุกวันนี้ ให้มีความปลอดภัยและมีความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น โดย Gartner คาดการณ์ว่า ภายในปี 2026 องค์กรที่มีการปรับใช้ AI TRiSM มาควบคุมการทำงานของ AI จะทำให้ AI สามารถตัดสินใจได้ฉลาดขึ้นและกำจัดข้อมูลที่ไม่ถูกต้องออกไปได้ถึง 80%
CTEM คือวิธีการที่ใช้ในการบริหารจัดการความเสี่ยงจากการความเสียหายทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ของทรัพย์สินทางไซเบอร์ภายในองค์กร ทั้งระบบดิจิทัลและทรัพย์สินที่แตะต้องได้เช่น คอมพิวเตอร์ โดย CTEM จะทำการตรวจสอบเครือข่ายและระบบ แล้วจำลองการโจมตีทางไซเบอร์เพื่อระบุช่องโหว่และจุดอ่อนของระบบ ทำให้องค์กรสามารถนำผลไปปรับปรุงแนวทางการรักษาความปลอดภัยโดยรวมขององค์กรได้ และการคาดการณ์จากทาง Gartner เชื่อว่า ภายในปี 2026 2 ใน 3 ขององค์กรที่ให้ความสำคัญกับ CTEM จะสามารถลดความเสียหายจากการถูกละเมิดได้
ในโลกที่ทรัพยากรมีอยู่อย่างจำกัด เทคโนโลยีที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Technology จะเป็นเหมือนโครงร่างของ digital solution ที่มุ่งเน้นถึงแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) โดยคำนึงถึงผลลัพธ์ทางสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้การใช้งานด้าน IT ที่แพร่หลายอย่างก้าวกระโดดในอนาคตสามารถเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ทำร้ายสังคม เทรนด์ของ Sustainable Technology จะมีความสำคัญมากขึ้น Gartner เชื่อว่าในปี 2027 1 ใน 4 ของค่าตอบแทนของ CIO จะถูกปรับไปตามผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเทรนด์นี้
Platform engineering คือการสร้าง self-service platform ให้กับ developer ในองค์กรมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น ด้วยการจัดเตรียม Infrastructure, Tools หรือ Services ที่จำเป็นสำหรับการพัฒนา Application และทำให้ Developer สามารถมุ่งเน้นไปที่ส่วนของงานด้านการพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดย Gartner คาดการณ์ไว้ว่าในปี 2026 กว่า 80% ขององค์กรผลิตซอฟต์แวร์ จะเริ่มสร้างทีมแพลตฟอร์มไว้เพื่อเป็น internal provider คอยส่งมอบข้อมูลที่ใช้ซ้ำได้ให้กับ developer ในการพัฒนาแอปพลิชั่น ช่วยลดต้นทุนในการพัฒนาได้มากยิ่งขึ้น
การนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้เป็นเหมือนผู้ช่วยสำหรับ Developer ในการออกแบบ การเขียนโค้ดและการทดสอบแอปพลิเคชั่น ส่งผลให้ Developer และ Tester สามารถลดเวลาในการทำงานบางส่วนไปได้มาก และมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเป็นหลัก และภายในปี 2028 developer ของบริษัทกว่า 75% จะมีการใช้ AI เป็นตัวช่วยในการเขียนโค้ด ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2023 ที่มีไม่ถึง 10%
Industry Cloud Platforms (ICPs) เป็นเทคโนโลยี Cloud ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้บริการในแต่ละอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มความคล่องตัวและความรวดเร็วในการสร้างมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรมนั้น ๆ โดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและความรวดเร็วในการสร้างมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมในแบบที่คลาวด์ทั่วไปไม่สามารถทำให้ได้ และภายในปี 2027 จะองค์กรมากกว่า 50% นำเทคโนโลยี Cloud ในอุตสาหกรรมมาใช้เพื่อเร่งการเติบโตของธุรกิจ
Intelligent Applications เป็นแอปพลิชั่นที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI เข้ามาขับเคลื่อนเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น โดย AI ในแอปพลิเคชั่น จะสามารถเรียนรู้และปรับปรุงการตอบสนองได้อย่างอัตโนมัติ ไปจนถึงการคาดการณ์และให้คำแนะนำที่เหมาะสมเพื่อให้แอปพลิเคชั่นตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้น โดยในอีก 3 ปีข้างหน้าคือปี 2026 กว่า 30% ของแอปพลิเคชั่นที่จะเปิดตัว จะมีการใช้ AI มาปรับแต่งหน้า user interface ให้เป็นลักษณะเฉพาะของผู้ใช้งานแต่ละคน
ต่อไป Generative AI จะมีผู้คนสามารถเข้าถึงได้มากขึ้นและกลายเป็นเทคโนโลยีสาธารณะ ความสามารถของ Gen AI ที่จะช่วยเสริมศักยภาพของให้ผู้ใช้งานโดยที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญในการใช้งานมากนัก รวมถึงอาจทำให้ธุรกิจเปลี่ยนแปลงแนวทางในการทำงานแบบก้าวกระโดดไปเลยก็ได้ โดย Gartner คาดว่าในปี 2023 จะมีองค์กรกว่า 80% หันมาใช้ Gen AI เป็น model หรือ APIs รวมถึงการส่งออกแอปพลิขั่นที่มีเทคโนโลยี AI อยู่ด้วย
ACWF จะเป็นกลยุทธ์ใหม่ที่ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพของบุคลากรในองค์กรเพื่อให้เกิดการใช้แรงงานอย่างมีประโยชน์สูงสุด ด้วยการใช้ intelligent technology ร่วมกับการวิเคราะห์ข้อมูลของพนักงานและการเสริมสร้างทักษะที่จำเป็น เพื่อเร่งการพัฒนาทักษะในตัวพนักงาน โดยคาดว่าจนถึงปี 2027 กว่า 25% ของ CIOs จะหยิบกลยุทธ์นี้มาใช้งานกับบุคลากรที่เป็น key role ให้มีทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานภายในระยะเวลาที่น้อยลงกว่าปัจจุบันถึง 50%
Cusmobot คือลูกค้าที่ไม่ใช่มนุษย์แต่สามารถทำการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการได้ด้วยตนเอง ซึ่งการ์ทเนอร์เชื่อว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าหรือปี 2028 จะมีผลิตภัณฑ์กว่า 15 พันล้านชิ้นที่มีความสามารถนี้และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นไปอีกหลายพันล้านชิ้นในอนาคต โดยการเติบโตนี้จะส่งผลให้มีการซื้อขายเป็นมูลค่ากว่าล้านล้านดอลล่าห์ในปี 2030
ทำไมธุรกิจต้องสนใจเทรนด์เทคโนโลยีเหล่านี้ ?
เทรนด์เทคโนโลยีทั้ง 10 ตัวนี้เป็นแนวโน้มที่มีความสำคัญและมีความสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงและสร้างโอกาสสำคัญในธุรกิจภายในระยะ 3 ปีที่จะถึง ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์มีบทบาทสำคัญและมีแนวโน้มที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจควรปรับตัวให้ทันยุคทันสมัย โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ
ซึ่งการตัดสินใจว่าจะนำเทรนด์เหล่านี้มาใช้ในบริษัทของคุณเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างไร และจะนำมาใช้เมื่อไหร่นั้นขึ้นอยู่กับเป้าหมายทางธุรกิจขององค์กรและการพิจารณาในการปรับใช้เทคโนโลยีเหล่านี้อย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดกับบริษัท
ดังนั้น สำหรับธุรกิจในปี 2024 การใช้เครื่องมือเทคโนโลยีในอนาคตจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป สิ่งสำคัญคือการปรับตัวอยู่เสมอ เทคโนโลยีในปัจจุบันอาจไม่เพียงพอต่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต การเตรียมพร้อมและดำเนินการด้วยกลยุทธ์ที่ชัดเจนมีผลต่อการเติบโตของทุกองค์กร
หากธุรกิจของคุณยังคงใช้วิธีการดำเนินงานแบบเดิมๆ การพิจารณานำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยและเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานเพื่อช่วยลดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงเพิ่มโอกาสในการขยายการเติบโตของธุรกิจอย่างก้าวกระโดด ในโลกที่เทคโนโลยีเป็นชนวนสำคัญที่จะพาโลกก้าวไปสู่โลกที่ใหม่กว่านั้นมีความจำเป็นเป็นอย่างมาก
House of Dev Technology เป็นบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีโซลูชั่นที่เข้าใจถึงหัวอกคนทำธุรกิจ รู้ถึงความสำคัญและประโยชน์ในการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับในการบริหารองค์กร เราเชื่อมั่นเสมอว่าเทคโนโลยีโซลูชั่นที่เหมาะสมและใช้งานง่ายจะสามารถพัฒนาศักยภาพขององค์กรได้อย่างเกินความคาดหมายและสมบูรณ์แบบ