สำหรับตลาดงานในโลกอนาคต แน่นอนอยู่แล้วว่า การมีทักษะที่จำเป็นและเป็นที่ต้องการจะทำให้บุคคลนั้นๆ ได้รับค่าตอบแทนและเป็นที่ต้องการขององค์กรต่างๆมากยิ่งขึ้น
World Economics Forum (WEF) ได้ออกมาเปิดเผยว่า นับจากตอนนี้จนถึงปี 2027 จะเป็นยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดในแบบที่องค์และภาคธุรกิจไม่สามารถที่จะ training บุคลากรให้ปรับตัวตามได้ทัน จนอาจส่งผลให้ทักษะของคนทำงานเหล่านั้น กว่า 44% หยุดชะงักไป
องค์กรทั้งในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมควรที่จะจัดการอบรมเพื่อพัฒนาและยกระดับทักษะที่มีให้ดีกว่าเดิม (upskill) รวมถึงสร้างทักษะใหม่ๆ ที่จำเป็นต่อการทำงาน (reskill) ให้กับพนักงานของตน เพื่อที่องค์กรจะได้พัฒนาตามเทคโนโลยีอย่างสมบูรณ์แบบ
แล้วทักษะใดบ้าง? ที่องค์กรควรให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลากรของบริษัท
หรือแม้แต่ตัวบุคคลเอง ที่เป็นบุคลากรของบรัษิทควรจะพัฒนาทักษะด้านไหน ? เพื่อให้เป็นคนที่ทุกองค์กรต้องการตัว
ทาง World Economics Forum (WEF) ได้ออกมาคาดการณ์ถึง ทักษะที่จำเป็นในอนาคตและศึกษาถึงการเติบโตของความต้องการขององค์กรต่อทักษาะเหล่านั้นมาแล้วในรายงานวิจัย Future of Jobs 2023 (อ่านฉบับเต็ม) ซึ่งได้เปิดเผยถึงแนวโน้มที่น่าสนใจมากมาย ที่คนวัยทำงานและธุรกิจในปัจจุบันควรทราบ
และนี่คือ 10 ทักษะ ที่คนวัยทำงานควร reskill และ upskill ภายในปี 2027
ทักษะในด้านการคิดเชิงวิเคราะห์ (Analytical thinking)
ทักษะในด้านการคิดเชิงวิเคราะห์ คือความสามารถในการคิดและแจกแจงปัญหาออกมาอย่างเป็นระบบ และหาความเชื่อมโยงระหว่างแต่ละองค์ประกอบ เพื่อนำมาวิเคราะห์ถึงสาเหตุและผลกระทบของปัญหานั้นจนทำให้เกิดการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ
ทักษะการคิดเชิงสร้างสรรค์ (Creative thinking)
ทักษะการคิดเชิงสร้างสรรค์ คือความสามารถในการรู้จักคิดริ่เริมวิธีการใหม่ๆ อย่างสร้างสรรค์เพื่อการแก้ปัญหา โดยผู้ที่มีทักษะนี้จะรู้จักเสาะหามุมมองใหม่ๆ อยู่เสมอ ทำให้กลายเป็นคนที่มีพัฒนาการของตนเองอย่างต่อเนื่องทักษะด้าน AI และ Big data (AI and big Data)
ผลสำรวจจาก PWC เผยว่ากว่า 58% ของผู้บริหารจากทั่วโลกกล่าวว่า AI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของธุรกิจได้ ทำให้ทุกองค์กรในปัจจุบัน เริ่มที่จะปรับตัวก้าวสู่องคืกรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-driven organizatio) ทำให้ AI และ Big data คือ 2 เทคโนโลยีที่มีบทบาทอย่างมาก ดังนั้น นี่คือทักษะที่หลายๆ องค์กรในปัจจุบันและอนาคตกำลังตามหาจากตัวบุคลากรนั่นเอง
ทักษะการเป็นผู้นำและมีอิทธิพลทางสังคม (Leadership and social influence)
ทักษะการเป็นผู้นำและมีอิทธิพลทางสังคม ถือเป็นทักษะที่องค์กรส่วนมากมองหาจากผู้นำรุ่นใหม่ เนื่องจากองค์กรต้องการบุคคลที่มีสามาถเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพในยุคที่หลายธุรกิจดำเนินไปในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้นอกจากการนำทีมได้ดีและมีความรับผิดชอบสูงแล้ว บุคลากรจะต้องสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนในทีมและส่งเสริมให้ทุกคนเกิดพัฒนาการที่ดีในการทำงานอีกด้วย
ทักษะความยืดหยุ่น และความคล่องตัว (Resilience, flexibility and agility)
ทักษะนี้คือ ความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้ดีและคล่องแคล่ว บุคลากรที่มีทักษะนี้จะเป็นกำลังสำคัญให้องค์กรสามารถก้าวผ่านสถานการณ์ต่างๆ ที่ไม่คาดคิดได้ เพราะบุคคลที่มีทักษะความยืดหยุ่นและความคล่องตัวจะรู้จักปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือกลยุทธ์ต่างๆ ได้อย่างดีเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
ทักษะความขี้สงสัย และใฝ่เรียนรู้ (Curiosity and lifelong learning)
ทักษะความขี้สงสัยและใฝ่เรียนรู้ คือการที่บุคคลนั้นเป็นคนที่รู้จักเสาะหาความรู้หรือทักษะใหม่ๆ ให้ตนเองอยู่เสมอ ความรู้และทักษะที่เพิ่มขึ้นนี้จะทำให้บุคคลนั้นมีพัฒนาการโดดเด่น และกลายเป็นบุคลากรคุณภาพที่องค์กรเล็งเห็นว่าสามารถเพิ่ม value ให้กับบริษัทได้อย่างดีเยี่ยม
ทักษะความรู้ด้านเทคโนโลยี (Technological literacy)
57% ของผู้บริหารธุรกิจในสหรัฐอเมริกา คาดว่าเทคโนโลยีจะเป็นตัวขับเคลื่อนในการสร้างค่าขององค์กรในอนาคต ทำให้หลายธรุกิจในปัจจุบันให้ความสำคัญให้กับเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก ว่าจะเป็นตัวข่วยในการสร้างรายได้ใหม่ๆ ได้ ทำให้บุคลากรที่มีความสามารถทางด้านการใช้เทคโนโลยีก็ดูจะเป็นบุคคลที่ตอบโจทบ์กับการปรับตัวขององค์กรในยุคนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
ทักษะด้านการออกแบบและประสบการณ์ผู้ใช้งาน (Design and user experience)
ทักษะนี้คือความสามารถในการสร้างสรรค์สินค้าที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกดีที่จะใช้สินค้านั้นๆ ในทุกธุรกิจ ความพึงพอใจของลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งการตัดสินใจซื้อและการชื่นชอบจนเกิดการกลับมาซื้อใหม่ ดังนั้นบุคลากรที่มีความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าและสามารถสร้างสรรค์สินค้าที่สร้างประสบการณ์ดีๆให้กับลูกค้าได้จึงเป็นที่ต้องการของธุรกิจ
ทักษะการสร้างแรงจูงใจ และเข้าใจตัวเอง (Motivation and self-awareness)
ทักษะนี้คือการรู้จักตัวเอง เรียนรู้ที่จะเข้าใจในความต้องการ อารมณ์ และความรู้สึกของตนเอง ทำให้รู้จุดดีที่ควรรักษาไว้และจุดด้อยของตนเองที่ต้องพัฒนาต่อ ไปจนถึงสามารถสร้างแรงขับเคลื่อนให้ตนเองสามารถพัฒนาและปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นได้
ทักษะความเอาใจใส่และการฟังอย่างตั้งใจ (Empathy and active listening)
ทักษะความเอาใจใส่ และการฟังอย่างตั้งใจ เป็นหนึ่งในทักษะที่องค์กรเฟ้นหาในตัวบุคลากรเพื่อทำให้ความสัมพันธ์ในองค์กรเป็นไปอย่างราบรื่น บุคคลที่มีความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนร่วมงานและรู้จักฟังอย่างใส่ใจเพื่อที่จะช่วยเพื่อนร่วมทีมแก้ปัญหาไปด้วยกัน จะสร้างความไว้วางใจกับเพื่อนร่วมงานได้ดีส่งผลให้การทำงานเป็นทีมมีประสิทธิภาพ
โดยประเด็นน่าสนใจที่ WEF ได้เปิดเผยผ่านรายงาน มีดังนี้
หลายองค์กรในปัจจุบันยังให้ความสำคัญกับทักษะการคิดวิเคราะห์ของพนักงานมาเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วย ทักษะการคิดเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งทั้ง 2 ทักษะนี้ ยังได้เป็น 2 อันดับแรกของทักษะจำเป็นในปี 2023 ที่ผ่านมาและทักษะที่ตลาดแรงงานต้องการมากที่สุดภายในปี 2027 อีกด้วย
ทักษะด้าน AI และ Big data และ ทักษะการเป็นผู้นำและอิทธิพลทางสังคม เป็น 2 ทักษะที่ไม่ได้อยูในโพลล์ของทักษะที่มาแรงในอนาคต แต่กลับเป็น 2 ใน 10 ทักษะที่องค์กรต้องการพัฒนาในตัวพนักงานมากที่สุด
ทักษะความรู้ด้านเทคโนโลยีเป็นทักษะที่จะถูกให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในหลายองค์กร เนื่องด้วยองค์กรต้องปรับตัวให้ทันตามการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีนั่นเอง
6 ใน 10 คนทำงาน ต้องการการฝึกอบรมทักษะใหม่ภายในปี 2027 แต่จะมีเพี่ยงครึ่งหนึ่งของคนทำงานทั้งหมดที่จะเข้าถึงโอกาสในการอบรมและสถานที่ฝึกอบรม
ดังนั้นองค์กรในปัจจุบันทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจสามารถยึดอันดับทักษะเหล่านี้เพื่อเป็นข้อมูลในวางแผนเชิงกลยุทธ์สำหรับการพัฒนาทักษะที่จำเป็นของพนักงงานในองค์กร และทำให้องค์กรของคุณสามารถยืดหยัดและพัฒนาไปได้อย่างเป็นมืออาชีพในยุคของเทคโนโลยี
ส่วนเหล่าคนวัยทำงานก็สามารถที่จะฝึกฝนและพัฒนาทักษะใหม่ๆ เหล่านี้อยู่ตลอดเวลา เพื่อที่ไม่ใช่แค่พนักงานที่มีความเชี่ยวชาญ แต่คุณจะมีทักษะต่างๆ ที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาองค์กร จนทำให้คุณกลายเป็นบุคลากรคุณภาพที่ทุกภาคธุรกิจต้องการตัวก็เป็นได้